สร้างโลกด้วยตัวเอง ในเกม Minecraft กันเถอะ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน

หลังจากสอบเสร็จกันแล้ว เราก็มาผ่อนคลายสมอง

ด้วยการเล่นเกมน่ารัก ๆ กันดีกว่า

เกมที่ว่านี้ก็คือ Minecraft นั่นเอง

เอาล่ะ มาดูกันเลยว่าจะสนุก น่าเล่นขนาดไหน

ในเกมนี้สามารถเล่นได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์

โดยเริ่มฝึกเล่นด้วยการเล่นแบบ Single player กันก่อนเลย

เมื่อเริ่มเกม จะพบว่า ไม่มีอะไรติดมากับตัวละครเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

เราสามารถหาของในการสร้างเมืองด้วยการขุดแร่หรือทุบ

ต้นไม้ ดิน หิน หรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้

จากนั้นเราจึงนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาคราฟตามตารางคราฟดังนี้

จะเห็นว่าวัตถุดิบหลาย ๆ อย่างสามารถคราฟเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้

เช่น ประตู หน้าต่าง เก้าอี้ เตียงนอน เป็นต้น

จากนั้นเราก็สามารถสร้างบ้าน หรือเมืองของตัวเองได้แล้ว

โดยการนำบล้อคหรือไอเทมต่าง ๆ มาเรียงต่อกัน

ให้ได้รูปทรงต่าง ๆ ตามใจชอบ

นอกจากจะสนุกแล้ว เกมนี้ยังเป็นส่วนช่วย

ในด้านความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นเป็นอย่างมาก

จนทำให้เกมนี้ มีผู้เล่นจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก

และยังเป็นเกมสุดฮิตในหมู่เด็ก ๆ และวัยรุ่นอีกด้วย

ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองเล่นเกมนี้ดูกันนะคะ

รับรองว่าติดใจแน่นอนค่ะ :D

ระวัง ! แฮกเฟซบุ๊ก ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ 

ดิฉันคิดว่าเพื่อนๆทุกคนคงจะมีเฟซบุ๊กกันใช่ไหมคะ 

แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่าเฟซบุ๊กนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย 

ดังนั้นเพื่อนๆทุกคนที่ใช้เฟสบุ๊กก็ควรที่จะระมัดระวังในการใช้ 

เพราะตอนนี้ข่าวการแฮกเฟสบุ๊กกำลังมาแรงเลยค่ะ

เพื่อนๆคงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ

การแฮกเฟซบุ๊กอะไรประมาณนี้กันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ 

แต่ที่เป็นประเด็นร้ายแรงไปกว่านั้น

คือการแฮกเฟสบุ๊กเพื่อไปยืมเงินเพื่อนคนอื่นๆ 

ดังตัวอย่างข่าวนี้เลยค่ะ

 เตือนภัย มิจฉาชีพสวมรอยเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก 

เพื่อหลอกให้เพื่อนเจ้าของบัญชีโอนเงินให้ 

เผยทำมากว่า 4 ปีแล้ว ไม่เห็นมีตำรวจจับได้

จากข่าวดังกล่าวเราจะเห็นว่า

งมันเป็นเรื่องที่อันตรายมากเลยใช่มั้ยคะ 

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจที่จะก่อผลเสียตามมาหลายๆประการ 

เช่น ผู้ที่ถูกยืมเงินจะไม่ได้รับเงินคืน 

อาจเกิดการทะเลาะกันในกลุ่มเพื่อน

ดังนั้นเพื่อนๆทุกคนก็ควรที่จะใช้สื่อสังคมออนไลน์

อย่างระมัดระวัง ตั้งรหัสผ่านที่สามารถแฮกได้ยาก 

และตั้งค่าความปลอดภัย 

เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเพื่อนๆเอง

ดิฉันขอฝากถึงผู้ที่ชอบแฮกเฟซบุ๊กของชาวบ้านว่า

ให้หยุดการแฮกนั้นเถอะค่ะ 

เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นมีความผิดทางกฏหมาย 

ซักวันหนึ่งคุณอาจจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกก็ได้นะคะ

เว็บฝึกภาษาอังกฤษเจ๋ง ๆ ที่ไม่น่าพลาด

          สวัสดีค่ะเพื่อนๆ 

วันนี้ดิฉันก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดท

เว็บไซต์สุดเจ๋งสำหรับคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ

          ดิฉันเป็นคนที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ 

แต่ดิฉันจะไม่ชอบเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนพิเศษ 

ดิฉันชอบที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง ฝึกฝนด้วยตัวเอง 

เพราะรู้สึกว่าเข้าใจกว่าไปนั่งเรียนในห้องซะอีก 

(ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ) 

ดิฉันก็พยายามหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ

การฝึกทักษะภาษาอังกฤษ จนกระทั่งมาเจอเว็บไซต์หนึ่ง 

เฮ้ย มันเจ๋งอ่ะ มันเหมาะสำหรับ

คนที่อยากฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง 

ดังนั้นในวันนี้ดิฉันจะมาแนะนำเว็บไซต์ดังกล่าว

ให้เพื่อนๆ ลองไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองดู 

และเพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา

เราไปอัพเดทเว็บไซต์ฝึกภาษาอังกฤษสุดเจ๋งกันเลยค่ะ

         สำหรับเว็บไซต์ที่ดิฉันจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ www.englishpractice.com นั่นเองค่ะ

          English practice.com 

เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวม

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษเอาไว้มากมายให้เพื่อนๆ 

ได้ลองฝึกทำด้วยตนเอง และที่สำคัญ 

เมื่อทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้วก็สามารถ

ที่จะตรวจคำตอบได้ทันทีเลยละค่ะ

ตัวอย่างแบบฝึกภาษาอังกฤษเรื่อง present perfect tense

Vocabulary exercise

ถ้าทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้วเราก็สามารถตรวจคำตอบได้เลย

นี่เป็นเพียงตัวอย่าง

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษเล็กๆน้อยๆเท่านั้นนะคะ 

เพราะในเว็บไซต์นี้เขาได้รวบรวม

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษไว้เยอะจริงๆ 

ถ้าใครสนใจแล้วเกิดคันไม้คันมือ

อยากเข้าไปประลองฝีมือของตนเองก็เข้าไปที่

www.englishpractice.com ได้เลยค่ะ

พาไปชิมสุดยอดอาหารญี่ปุ่นที่ อัย เจแปนนิส วิลเลจ

           สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดิฉันมีโอกาสไปเที่ยว 

Terminal 21 กับเพื่อนๆของดิฉันเอง 

เราก็เดินหาร้านอาหารอยู่พักหนึ่ง 

เพราะใครที่เคยไป Terminal 21 

จะรู้ว่าร้านอาหารเยอะมาก 

ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาลี 

เราเลยใช้เวลาหาร้านอาหารอยู่พักใหญ่ 

จนในที่สุดก็เดินมาพบกับร้าน ร้านนี้

          นี่คือบรรยากาศข้างหน้าร้านอัยเจแปนนีสวิลเลจ

           ร้านอัยเจแปนนีสวิลเลจเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น 

ซึ่งรับรองได้เลยว่าเมื่อเข้าไปรับประทานอาหารในร้าน

จะได้รับกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ 

โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นให้เสียเวลาเลยหละค่ะ

             

อัยเจแปนนีสวิลเลจ สาขาเทอร์มินอล 21 

เป็นร้านขนาดใหญ่ 

ภายในร้านจะประกอบด้วยร้านอาหารเล็กๆ 

อีกหลายร้านให้เลือกทานตามใจชอบ

ทั้งบุฟเฟ่ท์,อะลาคาร์ท หรือ ชาบู 

แต่ที่หมายของเราคือ ร้าน Dohton Bori

ที่มักมีคนมารอคิวเพื่อเข้าไปรับประทานเป็นจำนวนมาก 

โต๊ะที่นี่จะมีกระทะอยู่กลางโต๊ะ 

และมีเมนูให้เลือกทานหลายชนิดค่ะ 

แต่ 3 ประเภทที่เราสามารถทำด้วยตัวเอง 

จะมี โอโคโนมิยากิ,ยากิโซบะ และเทปปันยากิ 

          ส่วนเรื่องรสชาติไม่ต้องเป็นห่วง

เพราะดิฉันขอการันตีความอร่อย 

โดยเฉพาะทาโกะยากิ แป้งนุ่มๆกับกุ้ง

พร้อมผักกรอบๆ ทานเข้ากันดีค่ะ 

ถ้าชอบรับประทานพิซซ่าญี่ปุ่น

ห้ามพลาดร้านนี้ด้วยประการทั้งปวง 

ส่วนเรื่องวิธีการทำก็ไม่ต้องเป็นห่วง 

ไม่ต้องกลัวว่าจะงงแต่อย่างใด 

เพราะทางร้านมีวิธีทำอาหารอยู่บนโต๊ะ 

สามารถทำตามได้เลยรับรองอร่อยชัวร์     

           อีกทั้งการตกแต่งภายในร้าน

ก็ออกแบบให้มีลักษณะแบบญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด 

ประดับประดาด้วยโคมไฟแบบญี่ปุน กว่า 50 ดวง 

และยังมีโต๊ะไม้และกระทะแบบญี่ปุ่น

ให้คุณไว้ประลองฝีมือการทำอาหารแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว 

แถมบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก

อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ 

เหมาะกับการควงคู่กันไปออกเดทเป็นที่สุด

สำหรับใครที่มีโอกาสแวะไป Terminal 21 

ห้ามพลาดที่จะไปแวะชิมอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ 

ที่ร้านอัยเจแปนนีสวิลเลจกันนะคะ 

รับรองได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังค่ะ

^_______________^

การประยุกต์ใช้เฟซบุ๊กเพื่อการเรียนการสอน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ 

วันนี้ดิฉันจะมาอัพเดท

สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คประเภทหนึ่ง

ที่เมื่อทุกคนได้ยินแล้วจะร้อง “อ๋อ” 

และโซเชียวเน็ตเวิร์คที่ดิฉันจะมาอัพเดทในวันนี้ก็คือ

www.facebook.com  หรือว่า เฟซบุ๊ก นั่นเองค่ะ

          เฟซบุ๊กเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ที่ยังคงเฟื่องฟู

และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลให้มีคนนำ 

เฟซบุ๊กไปประยุกต์ใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ในสถานศึกษา

เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์

และแบ่งปันข้อมูลด้านวิชาการในการเรียนการสอน

รวมถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ระหว่างครูผู้สอนกับครูผู้สอน ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน 

และผู้เรียนกับผู้เรียนด้วย

โดยดิฉันเห็นว่าเฟซบุ๊กนั้นมีประโยชน์

มากกว่าที่หลายๆคนคิด วันนี้ดิฉันจึงนำเสนอเฟซบุ๊ก

เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเรียนการสอน 

และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ

เพื่อนส่วนมากจะใช้เฟซบุ๊กในการติดต่อสื่อสาร 

โพสต์ข้อความแสดงความรู้สึกต่างๆ 

แต่วันนี้เราจะมารู้จักกับการใช้เฟซบุ๊ก

เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนกัน

วิธีการใช้เฟซบุ๊กในการเรียนการสอน

ก็ไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ 

ดิฉันเชื่อว่าส่วนมากทุกคนน่าจะมีเฟซบุ๊กอยู่แล้วใช่ไหมคะ 

เราก็แค่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆและอาจารย์ผู้สอน 

โดยให้ใครคนหนึ่งในกลุ่มเรียนนั้นสร้างกลุ่มสำหรับ

รายวิชานั้นๆขึ้นมา แล้วก็ดึงเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มเรียนเดียวกัน

เข้าไปในกลุ่ม แล้วตั้งชื่อกลุ่มตามชื่อรายวิชานั้นๆได้เลยค่ะ

นี่เป็นตัวอย่างกลุ่มวิชาการเขียนในสื่ออินเทอร์เน็ตนะ

ตัวอย่างกลุ่มวิชาภาษาในการประชาสัมพันธ์องค์กร

จะเห็นได้ว่าการสร้างกลุ่มในเฟซบุ๊ก

สำหรับรายวิชาต่างๆนั้น เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน 

ช่วยให้การเรียนการสอนในวิชานั้นๆ

บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการได้

แต่อย่างไรก็ดีการใช้เฟซบุ๊กเป็นสื่อการเรียนการสอนนั้น

ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย 

วันนี้ดิฉันจึงนำข้อดีและข้อเสียของการใช้เฟซบุ๊ก

เป็นสื่อการเรียนการสอนมาให้เพื่อนๆได้นำไปพิจารณาด้วย 

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆทุกคนนะคะ

ข้อดีของการใช้เฟซบุ๊กเพื่อการเรียนการสอน

สื่อสารถึงนักศึกษาได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้อีเมลล์หรืออีเลิร์นนิ่ง

ส่งเสริมการกระตุ้นให้นักศึกษาได้แบ่งปันความรู้ 

แลกเปลี่ยนความคิดได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

นักศึกษามีความสะดวกในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

เมื่อเพื่อนๆรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้เฟซบุ๊ก

เป็นสื่อการเรียนการสอนแล้ว 

ดิฉันอยากให้เพื่อนๆลองไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ

เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนของเพื่อนๆเอง

เที่ยว 2 วัน 1 คืน ในเขาใหญ่

        สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดิฉันก็ไม่พลาดที่จะมา

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆ

ได้ไปเที่ยวกันในช่วงปิดเทอมนี้

          เพื่อนๆคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ…

มาดูกันเลยว่าจะเป็นที่ไหน

          และสถานที่ท่องเที่ยวที่ดิฉันจะมาแนะนำในวันนี้

ก็คือ “เขาใหญ่” นั่นเอง 

ดิฉันเชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนคงจะคุ้นหูใช่มั้ยล่ะ 

เพราะเขาใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

          ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้ 

ดิฉันไปกับกลุ่มเพื่อนแค่ 1 คืน 2 วัน 

แต่สามารถเที่ยวในเขาใหญ่ได้คุ้มค่ากับเวลามาก

          เมื่อไปถึงเขาใหญ่ เวลาประมาณ 10.00 น. 

เราก็ไปหาที่พักบริเวณที่ใกล้เคียงกับไร่องุ่น 

เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ

ได้อย่างเต็มที่

นี่คือภาพบรรยากาศภายในรีสอร์ท

          เมื่อเก็บของและกระเป๋าเสื้อผ้าเสร็จ 

เราก็ออกเดินทางไปยังไร่องุ่น PB valley 

ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่พักมากนัก 

เราใช้เวลานานหลายชั่วโมงอยู่ในไร่องุ่น 

เพราะเราชอบไร่องุ่นเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว 

มีทั้งองุ่นแดงองุ่นเขียวที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เป็นพันๆไร่

จากนั้นเราก็เข้าไปดูโรงบ่มไวน์ ห้องหมักไวน์ และดูวิธีการทำไวน์

เมื่อเดินออกมาข้างนอกเราก็จะเจอกับ

ร้านของฝากของทาง PB valley ที่มีของฝากมากมาย

ให้เราได้เลือกซื้อ แต่ส่วนมากจะเป็นของฝาก

ที่ทำจากองุ่น เช่น น้ำองุ่น ไวน์องุ่น แยมองุ่น และอีกมากมาย

           กว่าจะออกจากไร่องุ่นก็เริ่มเย็นแล้ว 

เราจึงกลับที่พักและนั่งชิลพักผ่อนในรีสอร์ท

ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ 

ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา และอากาศที่เย็นสบาย

จนไม่ต้องเปิดแอร์เลยล่ะค่ะ

          พอรุ่งเช้าเราก็ไม่รีรอรีบออกไปช็อปปิ้งที่ปาลิโอ้ 

ในปาลิโอ้มีร้านค้าต่างๆให้เราเลือกซื้อมากมาย 

แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือปาลิโอ้เป็นสถานที่ที่สวยงาม

อลังการเหมือนจำลองเมืองฝรั่งเศสไว้ในที่นี่เดียว 

คนส่วนมากที่มาเที่ยวจะไปค่อยมาซื้อของ

แต่จะมาถ่ายรูปกันมากกว่า 5555 

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ

แต่ไม่มีโอกาสได้ไปหรือไม่สะดวก 

ดิฉันขอแนะนำให้มาที่ปาลิโอ้เลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ 

สำหรับการท่องเที่ยวในเขาใหญ่ในครั้งนี้ 

ถึงจะไปไม่กี่ที่ แต่ทุกๆที่ที่ไปดิฉันรับรองได้เลยว่าคุ้มค่า 

ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสก็ลองไปเที่ยวที่เขาใหญ่กันดูนะคะ

:)

หนังสือเรื่องความสุขของกะทิ มีค่ามากกว่าที่คิด

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดิฉันได้เปิดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ ดิฉันคิดว่ามันเป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่งเลยทีเดียว หนังสือเล่มเล็กๆ แต่แฝงไปด้วยแง่คิดต่างๆ นานา ดิฉันจึงคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆหลายๆคน

พูดถึงขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆ คงอยากจะรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่าอะไรและหนังสือที่ดิฉันจะพูดถึงก็คือ หนังสือเรื่องความสุขของกะทิ นั่นเอง

          นวนิยายเรื่องความสุขของกะทิ ของงามพรรณ  เวชชาชีวะ เป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๙ นอกจากนี้นวนิยายเรื่องความสุขของกะทิยังได้รับความสนใจจากสำนักพิมพ์ต่างประเทศ ๑๐ แห่งที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดเป็นภาษาของตนเองแล้ว ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน เกาหลี ลาว จีนแผ่นดินใหญ่ และจีนไต้หวัน และยิ่งไปกว่านั้นบทแปลภาษาอังกฤษโดยคุณพรูเดนซ์  บอร์ธวิก ยังได้รับรางวัลที่สองจากการประกวดงานแปล John Dryden Translation Competition จัดโดยสมาคมวรรณคดีเปรียบเทียบแห่งอังกฤษ (British Comparative Literature Association) นับเป็นผลงานจากเอเชียชิ้นแรกที่ได้รับรางวัลจากการจัดประกวดที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ อย่างไรก็ดีทางสมาคมห้องสมุดเด็กในสหรัฐอเมริกา ( The Junior Library Guild) คัดเลือก The Happiness of Kati เป็นหนังสือแนะนำให้บรรณารักษ์ทั่วประเทศ

จะเห็นได้ว่าหนังสือเรื่องความสุขของกะทินั้นมีรางวัลมาการันตีมากมายหลายรางวัลกันเลยทีเดียว

          เรื่องความสุขของกะทิเป็นหนังสือที่สอดแทรกแง่คิดมากมาย แต่แง่คิดหลักหรือแง่คิดสำคัญในเรื่อง ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องหลักสัจธรรมในชีวิต ก็คือความสุขที่แท้จริงนั่นเอง โดยคนเราทุกคนต่างขวนขวายหาความสุขให้ชีวิต และความสุขของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ในเรื่องความสุขของกะทินั้นผู้เขียนได้ใช้ตัวละครเอในเรื่อง นั่นก็คือ “กะทิ” เป็นตัวดำเนินเรื่องด้วยการที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องผ่านเหตุการณ์สูญเสียครั้งสำคัญ นั่นก็คือแม่ของกะทิเอง แต่กะทิก็สามารถที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขท่ามกลางความรักจากคนรอบข้างที่มอบความรักให้กับกะทิ

บทสนทนาในเรื่องที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับดิฉันไม่น้อย

ตัวอย่างบทสนทนาในเรื่องที่ให้แง่คิด

-     “อดีตเหมือนเงาบางครั้งทอดนำอนาคต”

-     “น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้”

-     “หนูคืออนาคตของแม่ตั้งแต่วันที่ชีวิตแม่นับถอยหลัง”

-     “ความรักมีหลายรูปแบบและสีสัน”

-     “ความสุขของคนรอบข้างคือความสุขของเราด้วย”

-     “ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา”

นอกจากนี้ตัวละครในเรื่องที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับดิฉันได้ ก็คือ

          แน่นอนเลยค่ะว่าต้องเป็น “กะทิ” สาเหตุที่ดิฉันประทับใจในตัวละครตัวนี้ก็เพราะว่า ผู้เขียนสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดผ่านตัวละครตัวนี้ได้เป็นอย่างดี กะทิเหมือนเป็นตัวละครในอุดมคติเพราะแม้ว่าเธอจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆเพียงใดแต่เธอก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉันนะคะ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่สนใจหนังสือเรื่องความสุขของกะทินี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปได้เลยค่ะ หรือถ้าเพื่อนๆต้องการที่จะอ่านเรื่องย่อหรือบทวิจารณ์เรื่องความสุขของกะทินี้ล่ะก็ เพื่อนๆสามารถติดตามได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

http://kadsada.blogspot.com/2013/10/blog-post_5.html

http://writer.dek-d.com/podtong604/story/view.php?id=312291

http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/01/A7410869/A7410869.html

http://i-am-mai-oxygen.exteen.com/20100202/entry

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=462722